6 ข้อต้องทำ ไม่ให้รถพังเพราะจอดนาน ช่วง Work From Home

February 21, 2025

6 ข้อต้องทำ ไม่ให้รถพังเพราะจอดนาน ช่วง Work From Home

Work Form Home กันอีกแล้ว กว่าจะได้ออกจากบ้านอย่างปลอดภัยอีกที่เมื่อไหร่ไม่รู้ Covid-19 กลับมาระบาดอีกครั้งแถมยังหนักกว่าคราวก่อน งานนี้คงต้องอยู่บ้านกันยาวๆ เพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น ไม่ออกจากบ้าน ไม่เดินทางข้ามจังหวัด ทำให้รถไม่ได้ใช้ ต้องจอดรถแน่นิ่งไปอีกยาว จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

แต่รู้หรือเปล่าว่าการ จอดรถทิ้งไว้นาน ก่อให้เกิดปัญหามากกว่าที่คุณคิด ดังนั้น APRTECH จึงรวบรวม 6 ข้อที่ต้องทำ เมื่อคุณต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน ในช่วง Work From Home มาฝากกัน

6 ข้อต้องทำ ถ้าไม่อยากให้รถพังเพราะจอดนาน ช่วง Work From Home

1. จอดรถในที่ร่ม แต่อย่าจอดใต้ต้นไม้

เลือกจอดรถภายในที่ร่ม มีอากาศถ่ายเทได้ดี อย่าจอดรถตากแดดเพราะทำให้สีรถและยางเสีย แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ควรหาผ้าคลุมรถกันร้อน Sunawayอย่าจอดใต้ต้นไม้ เพราะ ยางไม้และขี้นกก็ทำให้สีรถด่าง และอาจมีเศษกิ่งไม้ ใบไม้ตกใส่ อาจไปอุดตันรูระบายน้ำหาดฝนตกอาจทำให้น้ำเข้ารถไม่จอดรถใกล้สถานที่เปียกชื้น ใกล้กองขยะเพราะอาจมีหนูเข้าไปกัดสายไฟ

2. ล้างรถให้สะอาด

ล้างรถให้สะอาด

ก่อนที่รถคุณจะถูกจอดทิ้ง ควรทำความสะอาดรถให้เรียบร้อย เนื่องจากอาจมีคราบยางไม้ หรือขี้นกติดอยู่ บนชั้นเคลือบสี ซึ่งถ้าหากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน โดยไม่ทำความสะอาด อาจทำให้คราบเหล่านั้นกัดกร่อนสีรถ หรือทำให้ผิวรถเกิดคราบฝังแน่นลงไปในชั้นเนื้อสี ล้างไม่ออก ทำให้รถมีสีที่ไม่เงางามเหมือนเดิม และเกิดรอยฝังลึกในระยะยาวได้

3. เติมลมยางรถให้แข็งกว่าปกติ

รถที่จอดทิ้งไว้ ลมจะค่อยๆซึมออกจากยาง ก่อนจอดรถทิ้งนานควรเติมลมยาง ให้แข็งกว่าปกติ และคอยตรวจเช็คว่ายางแบนหรือไม่ การเลือกใช้ลมไนโตรเจนจะซึมออกช้าการเติมลมปกติ นอกจากนี้ ควรขยับรถเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งการกดทับของยาง เพราะการจอดทิ้งไว้ทำให้น้ำหนักของรถกดทับยางตำแหน่งเดิมเป็นเวลานานทำให้ยางเสื่อมสภาพ

4. ชาร์จแบตเตอรี่รถทันทีที่จอด

ชาร์จแบตเตอรี่รถทันทีที่จอด

แบตเตอรี่จะเป็นอย่างแรกที่เกิดปัญหาเมื่อจอดทิ้ง แบตเตอรี่รถเปรียบเสมือนหัวใจ ที่ถ้ามันมีปัญหาเมื่อไหร่ ระบบอิเลคโทรนิกส์ในรถก็มีปัญหาตามไปด้วย โดยเฉพาะกล่อง ECU ราคาหลักแสน อย่าปล่อยให้รถเสียหายถึงขั้นนั้น คุณควรเริ่มดูแลแบตเตอรี่รถของคุณตอนนี้เลยดีกว่า เพราะการดูแลแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดคือการรักษาไฟให้เต็มแบตเตอรี่อยู่ตลอดคุณจึงควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มตั้งแต่เริ่มจอดรถ

โดยทั่วไปแล้วแบตเตอรี่จะคายประจุไฟออกมาอยู่ตลอด รถที่จอดไม่ได้ขับนาน ไฟในแบตเตอรี่ก็จะอ่อนลงเรื่อยๆ ทำให้สตาร์ทยากขึ้นหรือถึงขั้นสตาร์ทไม่ติด หากปล่อยทิ้งไว้อีกแบตเตอรี่ก็จะเปลี่ยนจากอ่อนเป็นเสื่อมในเวลาเพียง 4 เดือน

ซึ่งมักมีอาการชาร์จไฟไม่เข้า หรือ เก็บไฟไม่อยู่ หรือ ชาร์จเต็มแล้วแต่ก็ยังสตาร์ทรถไม่ติดเพราะกำลังไฟไม่พอ การปล่อยให้แบตเตอรี่เสื่อมก็เหมือนร่างกายที่ตายแล้ว ไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้ ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่อย่างเดียวเท่านั้น อาจทำให้ระบบภายในรถเสียตามไปด้วยเพราะขาดไฟเลี้ยง

คุณอาจมีความเชื่อว่า “แค่สตาร์ทรถทิ้งไว้ วันละ 10 - 15 นาที ก็ช่วยชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่” แต่การสตาร์ทรถทิ้งไว้นั้นรอบเครื่องยนต์ไม่สูงพอที่จะปั่นกระแสชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ได้ จึงไม่ช่วยชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ เสียเวลาเปล่า แถมยังเสียงดัง เหม็นควัน เปลืองน้ำมันอีกต่างหาก และอาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วขึ้นเพราะรถใช้ไฟมากในการสตาร์ท

“คอยเอารถไปวนขับสัปดาห์ละครั้ง” จึงเป็นอีกทางเลือก แต่ก็มีข้อแม้ว่า รอบเครื่องต้องสูงพอแล้วระยะเวลานานพอให้ชาร์จไฟจนแบตฯเต็มซึ่งคุณไม่มีทางรู้เลยว่าแบตฯจะเต็มหรือยัง นอกจากจะขับขึ้นไฮเวย์ไปพัทยา หากคุณมีรถหลายคัน คุณต้องเสียเวลา เสียค่าน้ำมันมากแค่ไหนในการขับรถเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ ใช้ชีวิตสมาร์ทๆแล้วเอาเวลาไปทำสิ่งที่มีคุณค่าดีกว่าการขับรถเพื่อชาร์จแบตฯ

5. เช็คเครื่องยนต์ และระบบไฟว่ายังทำงานเป็นปกติ

ระบบเครื่องยนต์และระบบไฟเป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรละเลย ควรเปิดกระโปรงหน้ารถบ่อย ๆ เพื่อดูว่ามีพวกหนูมากัดสายไฟ หรือมีนกเข้ามาทำรังหรือเปล่า ควรสตาร์ทรถสัปดาห์ละ 1 ครั้งเพื่อให้ระบบของเหลวภายในเครื่องยนต์ได้ทำงาน ให้สายพานในรถได้วิ่งทำงานบ้าง สังเกตสายพานว่าไม่มีรอยแตกหรือร้าว เช็คระบบไฟ ไฟหรี่ ไฟเลี้ยว ไฟหน้า ไฟเบรค โดยการกดปุ่มแสดงสัญญาณ พร้อมเดินดูรอบรถว่าทำงานปกติหรือไม่ ก่อนนำรถออกไปใช้อีกครั้ง

6. เช็คของเหลวในเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับปกติ

เช็คของเหลวในเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับปกติ

ก่อนจะจอดรถของคุณทิ้งไว้นาน ต้องเช็กระดับของเหลวต่างๆ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำในหม้อน้ำ น้ำที่ปัดน้ำฝนว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่รั่วซึม เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาหรือไมล์ที่เหมาะสมหลังจากจอดทิ้งไว้ เพราะน้ำมันเครื่องมีวันเสื่อมสภาพด้วยตัวเอง หากมีการจอดทิ้งไว้นานเกินไป

นอกจากนี้ควรเติมน้ำมันให้เต็มถังเพื่อป้องกันการเกิดสนิมในถังน้ำมันจากหยดน้ำที่เกาะสะสมอยู่ในระบบจ่ายเชื้อเพลิง สาเหตุที่ทำให้ระบบน้ำมันอุดตัน และเนื่องจากน้ำมันในถังถ้าไม่ใช้นานๆ จะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า “น้ำมันบูด” สังเกตได้จากการสตาร์ทรถหลังจอดนานๆ กลิ่นน้ำมันจะเหม็นกว่าปกติ จึงควรนำรถไปขับเพื่อให้น้ำมันเก่าได้หมุนเวียนออก แนะนำให้เติมน้ำมันเบนซินเพียว ที่ช่วยลดอาการน้ำมันบูดจากการจอดทิ้งรถไว้เป็นระยะเวลานานได้

ทั้งหมด 6 ข้อที่เราแนะนำ ควรเช็กให้แน่ใจว่าทำครบแล้วทุกข้อ ส่วนในเรื่องของแบตเตอรี่ ถ้าหากคุณไม่อยากเสียเวลาเอารถไปวนขับหลายรอบ รอบละหลายนาที แถมไม่รู้ว่าจะชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ได้เต็มหรือเปล่า

ที่มา : https://www.aprtech.co.th

บทความอื่นๆ

ติดต่อสอบถาม คลิกที่นี่ได้เลย